หลีกเลี่ยงอาหาร 8 ชนิด ถ้าไม่อยากกินยาแก้ท้องอืดก่อนเข้านอน!
อาหารทุกอย่างล้วนแต่มีคุณค่าในตัวของมันเองอยู่แล้ว แต่ ! ถ้าคุณบริโภคอย่างไม่รู้ลิมิตนอกจากไม่ให้ประโยชน์แล้วอาจจะยังนำพามาสู่อาการเจ็บป่วยๆ ต่างได้อีกด้วย อย่างเช่นในวันนี้เราได้หยิบยกอาหาร 10 ชนิด ที่คุณควรจำกัดปริมาณในการทานถ้าไม่อยากจะต้องลุกมาหายาแก้ท้องอืดทานในยามดึก ซึ่งจริงๆ แล้วอาหารที่เรากำลังจะกล่าวถึงนั้น ก็มีประโยชน์ในตัวของมันเองที่สูงมาก เพียงแต่อาจจะต้องระมัดระวังในการกินเพิ่มขึ้นจากเดิมเท่านั้นเอง ซึ่งจะมีอาหารอะไรที่ทำให้ท้องคุณอืดได้บ้างเราไปดูพร้อมๆ กันเล้ยยย
1.เนื้อสัตว์
สำหรับใครที่ถูกตาต้องใจกับอาหารบุฟเฟต์ปิ้งย่าง อาจจะต้องลด ละ เลิกกันสักนิด ถ้าไม่อยากจะต้องมานั่งทานยาแก้ท้องอืดทุกๆ วัน เพราะอย่างที่ทราบกันดีกว่าในเนื้อหมูหรือเนื้อวัวนั้น มีไขมันและโปรตีนที่สูง ถ้าบริโภคแต่พอดีก็คงจะไม่มีปัญหาอะไร แต่ ! ขึ้นชื่อว่ากินบุฟเฟต์แล้วปริมาณการกินก็ต้องเยอะตามเป็นพิเศษ ซึ่งตรงนี้เองจะทำให้ระบบการย่อยอาหารของคุณทำงานหนัก และจะนำไปสู่อาการท้องอืดท้องเฟ้อเรอเหม็นเปรี้ยวนั่นเอง
2.ถั่ว
แม้ว่าถั่วจะประโยชน์ต่อร่างกายของคุณสักแค่ไหน แต่ถ้าคุณกินมันเยอะจนเกินไปก็สามารถทำให้คุณนั้นท้องอืดได้เช่นกัน เพราะในถั่วนั้นมีคาร์โบไฮเดรตที่ย่อยให้เป็นน้ำตาลได้ยาก ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติและไม่สามารถถูกดูดซึมได้ในลำไส้เล็ก ซึ่งตรงนี้เองจึงกลายเป็นสาเหตุที่ทำให้ท้องของคุณอืด ทางที่ดีคุณอาจจะนำถั่วไปแช่น้ำให้นิ่มก่อนที่จะทานมัน เพื่อที่ว่าจะช่วยให้เนื้อของถั่วนั้นนิ่มและยับยั้งคาร์โบไฮเดรตได้อีกทางหนึ่งด้วย
3.แตงโม
เป็นที่ทราบกันดีว่าการทานแตงโมนั้นแสนจะสดชื่น ยิ่งทานในช่วงอากาศร้อนๆ ด้วยแล้ว ฟินอย่าบอกใครเชียวล่ะ แต่ ! ในความฟินนี้อย่าลืมว่าแตงโมอุดมไปด้วยน้ำตาลฟรักโทสในระดับที่สูงมาก ซึ่งร่างกายของผู้ที่ไม่สามารถดูดซึมน้ำตาลฟรักโทสได้อย่างเต็มที่ อาจจะต้องเจอกับปัญหาท้องอืด และท้องเสียจากการทานแตงโตอย่างหลีกเลี่ยงได้เลยล่ะ
4.ธัญพืชชนิดต่างๆ
สายมังสวิรัติต้องระวังเพราะธัญพืชชนิดต่างๆ ล้วนมีส่วนประกอบของฟรุกแทน ที่ไม่สามารถย่อยสลายได้เองตามธรรมชาติ จึงสามารถทำให้เกิดแก๊สในกระเพาะได้เป็นจำนวนมาก ที่เป็นสาเหตุของอาการท้องอืดท้องเฟ้อที่แสนจะทรมาน ดังนั้นควรต้มธัญพืชชนิดต่างๆ ให้สุกก่อนที่จะบริโภคเพื่อลดความเสี่ยงของแก๊สที่จะเกิดขึ้น
5.ผักตระกูลหอม
ไม่ว่าเป็นหอมหัวใหญ่ หอมแดง ต้นหอม มักจะมีฟรุกแทนเป็นคาร์โบไฮเดรตที่เป็นปัญหากับช่องท้องของคุณ เพราะมักจะดูดซึมในลำไส้ได้น้อยมาก ซึ่งแน่นอนว่าก็จะทำให้คุณกลายเป็นบุคคลที่ท้องอืดไปปริยาย หากบริโภคเข้าในจำนวนที่มาก ดังนั้นกินแต่พอดี ถ้าไม่อยากจะต้องหายาแก้ท้องอืดมากินบรรเทาอาการ !
6.ผักตระกูลกะหล่ำ
กะหล่ำปลี บล็อกโคลี่ หรือแม้แต่ดอกกะหล่ำสีเหลือง ล้วนแล้วแต่มีคาร์โบไฮเดรตที่เรียกกันว่าแรฟฟิโนส เป็นส่วนประกอบ ซึ่งร่างกายของเราจะไม่สามารถย่อยสลายผักเหล่านี้ได้ จนกว่าจะขับเคลื่อนไปถึงลำไส้ใหญ่ แต่กว่าจะไปถึงลำไส้ใหญ่นั้นก็ใช่เวลานานพอสมควร จึงทำให้เกิดการหมักหมมของกากอาหารจนทำให้เกิดเป็นแก๊สในท้อง ซึ่งถ้าคุณไม่อยากที่จะมีอาการท้องอืดท้องเฟ้อจากการทานผักตระกูลกะหล่ำ ก็เพียงแค่นำไปต้มหรือทำให้สุกก่อนรับประทานก็เป็นอันเสร็จเรียบร้อย
7.โยเกิร์ต
แม้โยเกิร์ตจะช่วยให้การขับถ่ายของคุณราบรื่นไปได้ด้วยดี แต่ถ้าไม่รู้จักกินให้ถูกวิธีก็อาจจะต้องหายาแก้ท้องอืดมากินแทน เพราะโยเกิร์ตคือผลผลิตที่ทำมาจากนม ผ่านการหมักที่อุดมไปด้วยน้ำตาลแลกโทส ซึ่งพอทานเข้าไปก็จะทำให้คุณรู้สึกมีลมและปั่นป่วนอยู่ในท้อง ซึ่งถ้าถามว่าการทานโยเกิร์ตนั้นดีไหม ก็อาจจะต้องยืนยันคำเดิมว่าดี แต่ ! อาจจะต้องเลือกบริโภคโยเกิร์ตที่เป็นโยเกิร์ตแท้จากธรรมชาติ ไขมันต่ำ ไม่มีส่วนผสมของน้ำตาล และที่สำคัญไม่ควรทานเกินวันละ 2 ถ้วย เตือนละนะ!
8.แอลกอฮอล์
หลายๆ คนที่เป็นสายดื่มอาจจะต้องพบเจอกับอาการท้องอืดท้องเฟ้อ หลังจากที่ดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์เข้าไป เพราะอย่างที่ทราบกันดี ว่าเบียร์ต้องผ่านการหมักและมีฟองอากาศจำนวนมากที่พร้อมจะลงไปอยู่ในท้องของคุณ ก็คงไม่ต้องแปลกใจเลยว่าทำไมคุณถึงมีอาการแน่นท้อง รู้สึกไม่สบายตัว หลังจากการปาร์ตี้เสร็จ
ซึ่งถ้าคุณอยากที่จะนอนหลับสบายในยามค่ำคืน ก็พยายามหลีกเลี่ยงอาหารที่เราได้กล่าวไปเมื่อข้างต้น แต่ถ้าหากเกิดเหตุสุดวิสัยจริงๆ อย่างเช่นต้องออกไปกินเลี้ยงกับเจ้านายที่มีการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ไหนจะกับแกล้มที่เป็นถั่วอีก แบบนี้คุณก็อาจจะต้องพึ่งผู้ช่วยอย่างยาแก้ท้องอืดท้องเฟ้อมาไว้ข้างกายสักหน่อยแล้ว ซึ่งก็เป็นยาตัวไหนไปไม่ได้เลยนอกจาก GreenCurmin กรีนเคอมิน และ Curma Max เคอม่าแม็กซ์ ยาแก้จุกเสียดแน่นเฟ้ออันดับ 1 ที่หลายคนไว้วางใจ การันตีด้วย 5 เหรียญทองจากต่างประเทศว่าเป็นยาแก้ท้องอืด รักษาอาการจุกเสียดได้อย่างตรงจุด และไม่มีผลข้างเคียงที่เป็นอันตรายต่อร่างกายอย่างแท้จริง!