ยารักษากรดไหลย้อน กินอย่างไรให้ปลอดภัย
โรคกรดไหลย้อนนั้นเป็นโรคที่มักจะเกิดขึ้นกับคนที่มีไลฟ์สไตล์ของการทำงาน ใช้เวลาอยู่กับหน้าจอคอมพิวเตอร์ จนไม่มีเวลาในการออกกำลังกาย และทานอาหารเป็นเวลา ซึงเมื่อเป็นโรคนี้แล้ว กว่าจะรักษาให้หายขาดได้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยทีเดียว แถมต้องทนทรมานเมื่อมีอาการแสบร้อนอีกด้วย ซึ่งการซื้อ ยารักษากรดไหลย้อน มาทานเองนั้นก็ต้องได้รับคำแนะนำจากแพทย์ หรือเภสัชกรเสียก่อน แล้วการทานยารักษากรดไหลย้อนต้องทำอย่างไรบ้าง ลองมาดูกันครับ
-
กินยาอย่างเคร่งครัดตามคำแนะนำของแพทย์
ยารักษากรดไหลย้อน ที่ได้มาจากแพทย์สั่ง หรือเภสัชฯ เป็นผู้จัดมาให้ก็ตาม ทั้งสองแบบนั้น จะต้องมีเงื่อนไขในการทานยาบ่งบอกให้อยู่แล้ว ว่าต้องรับประทานก่อน หรือหลังอาหารอย่างไร และระยะเวลาในการทานยานั้นจะอยู่ที่กี่สัปดาห์ ทั้งนี้ก็ควรจะต้องปัฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เพื่อให้อาการกรดไหลย้อนลดลง และหายได้ในที่สุด
-
อย่าเพิ่งหยุดทานยาในทันทีเมื่อมีอาการดีขึ้น
โดยปกติแล้ว แพทย์มักจะให้ยารักษากรดไหลย้อนที่เป็นยาลดกรด และยาช่วยเพิ่มการเคลื่อนตัวของทางเดินอาหารมาให้ และเมื่อทานยาตามแพทย์สั่งจนมีอาการดีขึ้นแล้ว หลายคนเลือกที่จะหยุดทานยา ซึ่งจริง ๆ แล้วควรจะเริ่มจากการลดยาลงก่อน โดยลดยาเพิ่มการเคลื่อนตัวของทางเดินอาหารลงก่อน จากนั้นจึงลดยาลดกรดลงภายหลัง และหยุดกินในที่สุด
-
หากทานยาตามแพทย์สั่งแล้วยังไม่ดีขึ้นควรหยุดทันที
สำหรับการทานยารักษากรดไหลย้อนนั้น โดยปกติแล้วควรจะใช้ระยะเวลาอยู่ที่ 1-3 เดือน จึงจะเห็นผล แต่สำหรับคนที่ทานยาแล้วไม่รู้สึกว่าดีขึ้น หรือยังคงมีอาการของกรดไหลย้อนอยู่ และอาจจะเพิ่มขึ้น แนะนำว่าควรหยุดทานยา แล้วปรึกษาแพทย์ หรือเปลี่ยนจากการทานตามช่วงเวลาที่กำหนด มาเป็นการทานเมื่อมีอาการ แล้วปรับเปลี่ยนพฤติกรรมในการทานอาหารใหม่ ก็เป็นอีกวิธีที่ช่วยบรรเทาอาการได้
-
ทานยาที่มีส่วนผสมของสมุนไพร
หากว่าการทาน ยารักษากรดไหลย้อน จากร้านขายยา หรือที่แพทย์สั่งแล้ว ยังไม่เห็นผล ก็สามารถเปลี่ยนมาเป็นการทานยาที่มีส่วนประกอบหลัก ๆ มาจากสมุนไพร โดยเฉพาะ ขมิ้นชัน ซึ่งมีส่วนสำคัญในการช่วยลดกรดได้ดี ซึ่งยาในกลุ่มนี้ได้แก่ กรีนเคอมิน (Green Curmin) และ เคอม่าแม็กซ์ (Curma Max) ซี่งเป็นขมิ้นชันนาโน สามารถรับประทานได้ทันที มีทั้งในรูปแบบของเม็ดแคปซูล และน้ำ ช่วยรักษาและบบรรเทาอาการจากโรคกรดไหลย้อนได้ดีทีเดียว
การกินยาเพื่อรักษาโรคนั้นไม่ใช่เรื่องยากหากปฏิบัติตามเงื่อนไข และคำแนะนำที่ถูกต้อง ซึ่งการทานยานั้นอาจจะมีผลที่ช้า หรือเร็วก็ขึ้นอยู่กับแต่ละคน และไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันออกไปด้วย