Check! ตัวเองให้ดี ว่าคุณมีอาการโรคกระเพาะคุกคามหรือไม่!
โรคกระเพาะแม้ไม่ใช่โรคที่ร้ายแรงถึงชีวิตแต่สามารถสร้างความทรมานและลำคานใจให้แก่ผู้ที่เป็นได้อย่างมาก โดยมีอยู่หลายๆ คนที่เป็นเจ้าโรคร้ายนี้แล้วแต่ไม่รู้ตัว เพราะคิดว่าอาจจะเกิดจากลมในท้องหรือการรับประทานอาหารที่ผิดสำแดงเพียงเท่านั้น ซึ่งในวันนี้เราจึงรวบรวมอาการที่แสดงออกอย่างเด่นชัดของโรคกระเพาะมาให้คุณได้เช็คกัน ว่าอาการปวดท้องที่คุณเป็นคุณอยู่นั้น ใช่โรคกระเพาะหรือไม่ เพื่อที่จะได้หาทางรักษาให้โรคดังกล่าวหายขาด ไม่เข้ามากวนใจกวนกายของคุณอีก!
อาการของโรคกระเพาะที่คุณต้องรู้
โดยทั่วไปแล้วอาการของโรคกระเพาะจะปวดแสบ จุกเสียด บริเวณใต้ลิ้นปี่เป็นหลัก ซึ่งอาการดังกล่าวมักจะมีเวลาปวดที่ไม่แน่นอน บางคนปวดก่อนรับประทานอาหาร บางคนปวดหลังรับประทานอาหารหรือแม้แต่ช่วงเวลาที่ท้องว่างก็สามารถมีอาการได้เช่นกัน แต่ละครั้งที่เกิดอาการจะกินเวลานานประมาณ 15 – 30 นาที และอาการจุกเสียดจะเป็นๆ หายๆ วันละหลายรอบ หรือตามจำนวนมื้ออาหารที่คุณรับประทานนั่นเอง โดยอาการจะบรรเทาลงเมื่อมีอะไรตกถึงท้อง ไม่ว่าจะเป็น นม อาหารหรือแม้แต่ยาลดกรด!
อาการแทรกซ้อนของโรคกระเพาะที่น่าเป็นห่วง!
อย่างที่ทราบกันดีว่าโรคกระเพาะสามารถรักษาให้ได้ขาดได้ ไม่ได้มีอันตรายถึงชีวิต แต่! เมื่อไหร่ที่คุณดูแลรักษาอาการไม่ถูกต้องหรือปล่อยให้อาการเรื้อรังมาเป็นเวลานาน จะส่งผลให้เกิดภาวะแรกซ้อนที่อาจจะทำให้มีอันตรายถึงชีวิตเอาได้เช่นกัน โดยภาวะแทรกซ้อนต่างๆ มีดังนี้
1.กระเพาะลำไส้เป็นแผลทะลุ
กรณีที่เกิดเป็นภาวะแทรกซ้อนอย่างลำไส้ทะลุ อาจจะส่งผลให้คุณมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง จนไม่สามารถทนได้ต้องไปโรงพยาบาลในทันที ซึ่งให้คุณสังเกตว่าบริเวณหน้าท้องจะแข็ง กดไปแล้วมีอาการเจ็บ
2.เลือดออกในกระเพาะอาหาร
ข้อสังเกตง่ายๆ เลยในข้อนี้คือ อุจจาระจะมีสีดำหรืออาเจียนออกมามีเลือดป่นอยู่
3.กระเพาะลำไส้ตีบตัน
อาการกระเพาะลำไส้ตีบตัน จะสังเกตได้จากคุณจะมีอาการปวดท้อง รับประทานอาหารได้น้อยลง ไม่อยากอาหาร อิ่มเร็วมากกว่าปกติ รวมไปถึงอาเจียนออกมาจะมีแต่อาหารที่พึ่งรับประทานเข้าไป
5 สัญญาณบ่งบอกว่าคุณเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระเพาะ
อาการปวดแสบใต้ลิ้นปี่ของผู้ที่เป็นโรคกระเพาะนั้น เป็นที่รู้กันดีว่า ‘อิ่มก็ปวด หิวก็ปวด’ เรียกได้ว่าไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรทั้งสิ้น แต่! ก็มีหลายๆ คนที่ยังแยกไม่ออกว่า อาการปวดท้องจากโรคกระเพาะกับปวดท้องแบบธรรมดานั้น แตกต่างกันอย่างไร ซึ่งนั่นก็ไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องกังวลใจเลยแม้แต่น้อย เพราะเพียงแค่คุณสังเกต 5 สัญญาณเตือนของร่างกายที่บ่งบอกว่าคุณกำลังมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคกระเพาะแล้วนะ! ซึ่งทั้ง 5 สัญญาณเตือนจะมีรายละเอียดของอาการต่างๆ ดังนี้
1.ตื่นขึ้นมากลางดึก
หลายๆ ครั้งที่คุณต้องตื่นขึ้นมากลางดึก เพราะรู้สึกว่าปวดแสบบริเวณใต้ลิ้นปี่จนไม่สามารถนอนต่อไปได้ ซึ่งอาการแบบนี้จะถือว่าเป็นอีกหนึ่งสัญญาณเตือนของโรคกระเพาะนั่นเอง
2.เดี๋ยวมา เดี๋ยวหาย!
อาการปวดท้องจะมาแบบเป็นช่วงๆ เดี๋ยวเป็น เดี๋ยวหาย เอาแน่เอานอนไม่ได้ แต่บริเวณที่ปวดจะคือแถวๆ ลิ้นปี่
3.ปวดท้องทางฝั่งขวา
เวลาที่คุณรู้สึกหิวหรืออิ่มจะมีอาการปวดท้องทางฝั่งขวามือแบบเบาๆ ไม่ได้รุนแรงอะไรมากมาย
4.มีอาการอื่นๆ ร่วมด้วย
หากเมื่อไหร่ที่คุณมีอาการปวดท้องอย่างรุนแรง (โดยไม่ทราบสาเหตุ) และมีการอาเจียน ขับถ่ายเป็นเลือด ให้คุณรู้ไว้เลยว่า คุณมีโอกาสที่จะเป็นโรคกระเพาะได้สูง!
5.อยู่ดีๆ ก็ปวดลิ้นปี่!
หากนั่งอยู่ดีๆ แล้วคุณดันมีอาการปวดบริเวณใต้ลิ้นปี่ขึ้นมา ให้คุณรู้ไว้เลยว่าร่างกายของคุณส่งสัญญาณเตือน ให้ระวังโรคกระเพาะเริ่มคุกคามซะแล้ว!
ดูแลตัวเองให้ถูกจุด เมื่อคุณเป็นโรคกระเพาะแล้ว!
ในเมื่อหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่! คุณเลือกที่จะดูแลตัวเองหลังจากเป็นโรคกระเพาะได้ โดยให้คุณปฏิบัติตนดังนี้
1.รับประทานอาหารให้ตรงเวลา อย่าอดมื้อ กินมื้อ
2.งดสูบบุหรี่
3.หลีกเลี่ยงอาการที่มีรสชาติจัด เช่นรสเผ็ดและเปรี้ยว เพราะอาจจะทำให้กระเพาะของคุณระคายเคืองมากกว่าเดิม
4.เคี้ยวอาหารให้ละเอียดก่อนกลืนทุกครั้ง
5.รับประทานยาตามที่แพทย์สั่งอย่างเคร่งครัด
6.เลือกรับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ย่อยง่าย เช่นปลาและผัก
7.รับประทานอาหารในปริมาณที่พอดี ไม่มากและไม่น้อยจนเกินไป
8.รับประทานยาลดกรดเมื่อเกิดอาการ
9.อย่ากังวลหรือเครียดจนมาเกินไป ทำใจให้สบาย เพราะโรคนี้ไม่ได้ร้ายแรงถึงชีวิต!
เพียงแค่ 9 ข้อนี้ ก็จะช่วยให้อาการโรคกระเพาะของคุณนั้นดีขึ้นตามลำดับ และกลับมาใช้ชีวิตได้แบบปกติอีกครั้ง แต่! ถ้าอาการยังคงทรุดลงเรื่อยๆ คุณคงต้องรีบไปพบแพทย์ เพื่อขอคำแนะนำและตรวจดูร่างกายอย่างละเอียดอีกครั้ง เผื่อว่าจะมีอาการอื่นๆ แทรกแซงเข้ามาร่วมด้วย
หากอาการปวดท้องที่คุณเป็นอยู่นั้น ตรงกับข้อมูลที่เรากล่าวมาข้างต้น คุณต้องคงรีบไปพบแพทย์ที่หาหนทางรักษาได้อย่างทันถ่วงที หรือหากคิดว่าพึ่งเริ่มที่จะเป็น ก็คงจะต้องรีบปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการรับประทานอาหารแบบด่วนๆ ซะแล้ว ไม่เช่นนั้นอาการจะรุนแรงมากขึ้นกว่าเดิมและกลับมาเป็นแบบซ้ำๆ ซากๆ จนคุณจะหมดความสุขในการรับประทานอาหารไปเลยล่ะ เพียงแค่คุณปรับการกินให้ตรงเวลา โรคกระเพาะก็จะไม่ถามหาอย่างแน่นอน!