เป็นโรคกระเพาะกินยาอะไรดี?

เป็นโรคกระเพาะกินยาอะไรดี?

โรคกระเพาะนั้น เป็นโรคที่เกิดขึ้นได้กับคนเกือบทุกช่วงวัย เพราะโรคนี้มีสาเหตุมาจากหลายประการด้วยกัน ซึ่งเดิมทีอาจจะเข้าใจว่า โรคกระเพาะนั้นมาจากการกินอาหารไม่ตรงเวลาเพียงอย่างเดียว แต่ความจริงแล้ว โรคนี้กลับเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ แถมเมื่อเป็นแล้ว ก็ยังสร้างความไม่สบายกาย และเจ็บปวดให้ร่างกายได้มากทีเดียว แล้วการเป็น โรคกระเพาะกินยาอะไร ถึงจะช่วยบรรเทาและรักษาอาการที่เกิดขึ้นได้บ้าง ลองมาดูกันเลย

1. ยาที่ช่วยลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหาร

สำหรับยากลุ่มแรกที่จะบอกว่า โรคกระเพาะกินยาอะไรดี ก็คือ ยาที่ช่วยลดการหลั่งกรดในกระเพาะได้ ซึ่งจะแบ่งเป็น 2 กลุ่มย่อยด้วยกันคือ กลุ่มที่จะช่วยยับยั้งการขับโปรตอนซึ่งอยู่ในกรดที่เกิดขึ้น เช่น โอเมพราโซล (OmepraZole) โดยยากลุ่มนี้จะมีทั้งรูปแบบของยาฉีด และยาทาน ขึ้นอยู่กับอาการ และการวินิจฉัยของแพทย์นั่นเอง

ส่วนอีกกลุ่มหนึ่งก็คือ ยาที่ช่วยยับยั้งตัวสารฮิสตามีนชนิดที่ 2 เช่น แรนิทิดีน (Ranitidine) โดยจะเป็นยาที่ลดการหลั่งกรดในกระเพาะอาหารแบบทางอ้อม ซึ่งก็จะเห็นผลได้ช้ากว่า มีทั้งแบบฉีดและแบบแคปซูลเช่นเดียวกัน แต่ยากในกลุ่มนนี้จะมีราคาที่ถูกกว่ายากลุ่มแรก ทำให้หลายคนนิยมเลือกทานกันมากกว่า หรือจะเลือกทานยา กรีนเคอมิน (GreenCurmin) ที่มีส่วนผสมของขมิ้นชันสกัดทำให้ช่วยบรรเทาอาหารแสบร้อนทรวงอก และแน่นท้องได้เหมือนกัน

2. ยาแก้ท้องอืด

ยาที่ช่วยอาการท้องอืดนั้น จะมีหน้าที่ในการลดอาการที่เกิดขึ้นจากการทำปฏิกิริยาระหว่างอาหารและน้ำย่อย โดยยากประเภทนี้ได้แก่ แอร์เอ็กซ์ (Air-X) ซึ่งจะต้องกินทุกวัน วันละ 3 เวลาหลังอาหาร และเมื่อทานยาประเภทนี้เข้าไปแล้ว ก็จะรู้สึกผ่อนคลายขึ้น ลดอาการอึดอัด จุกเสียดแน่นท้องได้ ซึ่งก็มีผลวิจัยว่ายาลดกรดนั้นสามารถที่จะทานยาธาตุน้ำขาวแทนได้

3. ยาช่วยเพิ่มการเคลื่อนไหวในทางเดินอาหาร

ยาในกลุ่มนี้ยักตัวอย่างได้เช่น เมโทโคลพราไมด์ (Metroclopramide) ซึ่งเป็นยาที่ใช้ร่วมกันกับยาลดกรด ซึ่งหากเป็นยาทานก็จะต้องทานวันละ 3 ครั้งก่อนอาหาร โดยหน้าที่หลัก ๆ ของยาชนิดนี้ก็คือ ลดอาการแน่นท้อง และช่วยในการทำงานร่วมกันของกระเพาะอาหารและลำไส้เล็กให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น

4. ยาลดกรดในกระเพาะอาหาร

ยาชนิดสุดท้ายนั้น จะไม่ได้ทำงานด้วยการลดการหลั่งเหมือนยากลุ่มแรก แต่จะออกฤทธิ์ช่วยลดอาหารแสบร้อนทรวงอกและช่องท้องได้ดี ยากลุ่มนี้เช่น อลัมมิล (Alum milk) ซึ่งปกติแล้วจะต้องกินหลังอาหารทั้ง 3 มื้อ ครั้งละ 1 ช้อนโต๊ะ โดยหากหายาชนิดนี้ไม่ได้จริง ๆ ก็สามารถเลือกทานยาสามัญประจำบ้านอย่าง ยาธาตน้ำแดงแทนได้เหมือนกัน

ทั้ง 4 ข้อนี้ก็คงจะช่วยให้ความกระจ่างได้แล้วว่า โรคกระเพาะกินยาอะไรดี ? ซึ่งยาทั้ง 4 ชนิดนี้ก็ไม่ได้จำเป็นว่าจะต้องหาซื้อตามโรงพยาบาลซะทีเดียว เพราะยาบางกลุ่มก็สามารถทดแทนได้ด้วยยาสมัญประจำบ้าน และยาสมุนไพร GreenCurmin อีกด้วย ทั้งนี้ก็อย่าลืมปรึกษาแพทย์ และขอคำแนะนำในการรับประทานยาต่าง ๆ อย่างถูกต้องและเหมาะสมด้วย ก็จะดีที่สุด